ปิดฉากสุดประทับใจ “River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” ครั้งที่ 3 เต็มอิ่มกับมหกรรมลอยกระทง บนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จัดเต็มตลอด 3 วัน 3 คืน อลังการพร้อมกัน 7 แห่ง ภายใต้คอนเซปต์ “แสงมงคลส่องสว่าง” ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่ผ่านมา เพื่อสานต่อแนวคิด “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” โดยมีหัวเรือใหญ่ภาคเอกชนอย่าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย พันธมิตรทุกภาคส่วน

เรียกได้ว่าเป็นการสานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยคุณกมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในนามประธานการจัดงาน River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานครั้งนี้ว่า “สำหรับงาน River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด การบอกเล่าความเป็นไทย ไปทั่วโลก เพื่อร่วมอนุรักษ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่แสดงถึงวิถีชีวิตคนไทย กับเทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัย และมหกรรมลอยกระทงบนโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา

พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวไทยให้โดดเด่นในด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติจากทั่วโลกร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์ของ สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2560 ใน 7 พื้นที่หลัก บนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกันนี้เรายังคงสานต่อความสำเร็จอีกสองกิจกรรมใหญ่ ภายใต้การจัดงาน River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้มีการจัดกิจกรรมใหญ่ที่ถือเป็นการเตรียมความพร้อมรับงาน กับกิจกรรม เยาวชนเจ้าบ้าน..สืบสานวัฒนธรรม ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ปกครอง และเยาวชนในชุมชนเป็นจำนวนมากที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการพร้อมบอกเล่าความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และเผยแพร่เรื่องราวดีๆ ของชุมชนตนเองให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่มาร่วมภายในงาน กิจกรรมนี้ได้

รับความร่วมมือที่ดีระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ทั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างทักษะความรู้เรื่องชุมชนให้แก่น้องๆ เยาวชน พร้อมช่วยฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้าน ที่ดีให้แก่เด็กยุคใหม่ เพื่อเป็นผู้สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป

และอีกหนึ่งกิจกรรมใหญ่ดีๆ ที่ยังคงจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 คือ กิจกรรม Clean Klong โดยปีนี้ได้ขยายผลสู่การพัฒนาชุมชนและสร้างจิตสำนึกอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือจากโครงการชุมชนดีมีรอยยิ้ม ด้วยการเลือกคลองที่เชื่อมโยงกับชุมชนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

ประสานกับโรงเรียนในชุมชนเพื่อสร้างจิตสำนึกกับนักเรียน ให้ได้เรียนรู้ สืบสาน และสื่อสารต่อคนในครอบครัว ชุมชน และภายนอก เกิดเป็น ”เยาวชนต้นแบบ” ความภาคภูมิใจของชุมชนและโรงเรียน ซึ่งมีแผนการดำเนินงานในการเก็บขยะและวัชพืชในคลอง และริมคลองในชุมชน บำบัดน้ำในคลอง เพื่อปรับสร้างภูมิทัศน์โดยรอบชุมชนให้สะอาด มีความน่าอยู่ และยังเป็นการปลูกฝังให้คนไทยโดยเฉพาะชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ หันมาตระหนักถึงการรู้ถึงคุณค่าทรัพยากรของแม่น้ำลำคลองและร่วมมือร่วมใจกันรักษาความสะอาด เพื่ออนุรักษ์สายน้ำนั้นไว้อย่างยั่งยืน

ซึ่งทั้งหมดนี้ พวกเราทุกภาคส่วนล้วนมีความมุ่งหวังเดียวกัน นั่นคือเพื่อให้ งาน River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม เป็นการผนึกพลังอันยิ่งใหญ่ในการร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่จะสร้างความประทับใจ และสามารถดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติให้หลั่งไหลกันเข้ามาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมของประเทศไทยต่อไปครับ”

สำหรับงาน “River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” ในแต่ละพื้นที่มีกิจกรรมและไฮท์ไลท์ของแต่ละวัน จัดเต็มตลอด 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็น ถึง 5 ทุ่ม มีเรือด่วนเจ้าพระยาบริการรับส่งฟรีเชื่อมโยงทุกจุด โดยมีรายละเอียดในแต่ละพื้นที่พอสังเขปดังนี้

1.วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

สัญลักษณ์ของสิริมงคลยามค่ำคืนที่จะจัดให้มีการจุดประทีปบูชารอยพระพุทธบาทจำลอง และนมัสการพระพุทธไสยาสน์ พร้อมด้วยสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สวดนพเคราะห์ พิธีครอบน้ำพระพุทธมนต์ เวทีการแสดงบรรเลงดนตรีไทย ตลาดโบราณ และแผงประทีปส่องสว่าง

2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

สัญลักษณ์ของชีวิตอันรุ่งโรจน์ยามค่ำคืนกับกิจกรรมลอยประทีปบูชาพระปรางค์วัดอรุณองค์จำลอง 5 เมตร ลอดพระแท่นบรรทม สมเด็จพระเจ้าตากสิน สวดมนต์เจริญสมาธิ เวียนเทียนสักการะพระปรางค์ 4 ทิศ ตลาดชุมชนอาหารคาวหวานสูตรต้นตำรับของชุมชน และประทีปส่องสว่าง

3.วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

สถานที่สักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ลอยประทีปแสงเทียนแห่งศรัทธา ซึ่งจะมีพิธีสวดกระทงขอคมาพระแม่คงคาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ส่วนวันอื่นๆ ก็จะมีกิจกรรม ลอยประทีปเทียนหอมมงคล บูชาพระบรมสารีริกธาตุ สักการะพระพุทธนาคและพระบรมธาตุเจดีย์ บรรยายธรรมโดยท่านพระพรหมบัณฑิต

4.เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

สถานที่ที่เป็นตำนานแห่งการเริ่มต้นทางการค้าระหว่างประเทศ สู่ชุมทางการค้าร่วมสมัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน ซึ่งตลอดทั้ง 3 วันจะจัดให้มีนิทรรศการ “คนไทยกับสายน้ำ จากอดีตสู่ปัจจุบัน” และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

5.ท่ามหาราช

สถานที่ช้อป ชม ชิม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ทุกคนจึงจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนที่มีทั้งอาหารอร่อยและกิจกรรมถ่ายภาพมากมาย

6.ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค

สถานที่เดินชิลริมแม่น้ำที่คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพอันสวยงาม ณ โค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหารอร่อยแล้ว ยังมีตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้นอีกด้วย

7.ล้ง 1919

ร่วมสักการะเจ้าแม่ทับทิม พร้อมชมบรรยากาศความสวยงามยามค่ำคืน ของท่าประวัติศาสตร์ ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากมรดกบรรพบุรุษ “หวั่งหลี” สู่มรดกประวัติศาสตร์อันแน่นแฟ้นของไทยจีน ที่มีมายาวนาน

แถมนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติยังได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดชิคอย่าง Street Market ตลาดไอเดียฝีมือ The Great Outdoor Market ที่ยิ่งใหญ่และมีแฟนคลับมากที่สุดในเวลานี้ และดื่มด่ำกับบรรยากาศริมแม่น้ำไปกับวงดนตรีสด รวมถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกใจคนรักการถ่ายภาพ One Shot KnockOut @ Lhong1919 ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน อดีตท่าเรือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดในอดีตที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์

การค้าของไทย-จีน ที่มีมายาวนาน ในฐานะเป็นท่าไฮไลท์ใหมของปีนี้ เพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กับงาน “River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” ด้วยการเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกคนทั้งชาวไทยและต่างชาติมาร่วมกันเก็บภาพความประทับใจ บันทึกความทรงจำอันแสนงดงามและบรรยากาศในงานเทศกาลลอยกระทงของประเทศไทย

เรียกว่าเป็นควันหลงบรรยากาศยามค่ำคืนของเทศกาลลอยกระทง ที่อิ่มเอมไปด้วยอัตลักษณ์ของความเป็นไทย และเก็บบันทึกความทรงจำ พร้อมดื่มด่ำกับค่ำคืนอันแสนโรแมนติก ที่จะทำให้คุณประทับใจแบบไม่รู้ลืม ติดตามความเคลื่อนไหวผ่าน www.riverfestivalthailand.com