Thailand Biennale, Krabi 2018 กับความแตกต่างใหม่ จัดแสดงผลงานกลางแจ้ง ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัด เชิญศิลปินทั่วโลกกว่า 60 คน ลงพื้นที่ซึมซับวัฒนธรรม ธรรมชาติ อัตลักษณ์ของพื้นที่ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจตามแนวคิดหลักของงาน Edge of the Wonderland
ภายในงาน Thailand Biennale, Krabi 2018 จะประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้ กิจกรรมที่
1. การจัดแสดงผลงานศิลปกรรมร่วมสมัยตามแนวคิดหลัก (Theme exhibition) ของศิลปินกว่า 60 คนจากทั่วโลก ซึ่งจะมีการทยอยลงพื้นที่ของศิลปินเพื่อเก็บข้อมูล อัตลักษณ์ของท้องถิ่นไปใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงาน
2. การเชิญศิลปินรุ่นใหม่จากทั่วโลกส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาชาติจะร่วมกันคัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่นและสอดคล้องกับแนวคิดหลักเพื่อจัดแสดงและมอบรางวัลเกียรติยศ 1 รางวัล
3. การจัดกิจกรรมเพื่อการศึกษาต่าง ๆ ตลอดระยะเวลา 4 เดือนของการจัดแสดง อาทิ การเสวนาของศิลปินภัณฑารักษ์ การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการสัมมนาเชิงวิชาการในจังหวัดกระบี่ กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่น ๆ
Thailand Biennale, Krabi 2018 ให้ศิลปินได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเฉพาะพื้นที่ ในสถานที่ธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชายหาด น้ำตก ถ้ำ ภูเขาหินปูน พื้นที่ป่าดิบชื้น ซึ่งจะให้ประสบการณ์ ที่มีความแปลกใหม่ น่าจดจำต่อผู้มาเยือนทั่วโลก และจะช่วยเติมเต็มวิสัยทัศน์การพัฒนาการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของท้องทะเลอันดามันของจังหวัดกระบี่และภาคใต้ด้วย
ดร.เจียง เจฮง ภัณฑารักษ์ของงาน Thailand Biennale, Krabi 2018 กล่าวว่า แนวความคิดหลัก (theme) ของการจัด Thailand Biennale, Krabi 2018 คือ Edge of the Wonderland เขตแดนแห่งความมหัศจรรย์ แนวคิดแดนมหัศจรรย์ (wonderland) มีอยู่ในหลายวัฒนธรรมในโลกตะวันตกนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของ อลิซ แต่งโดย Lewis Carroll เมื่อ ค.ศ. 1865 ส่วนโลกตะวันออกมีเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนในตำนานและนิทานปรัมปราซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเทพปกรณัมจีน ปรากฏในศึกอภินิหารตำนานขุนเขาทะเล (The Classic of Mountains and Seas หรือ Shanhai Jing) ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับในเอเชียใต้ก็มีตำนานของฮินดูเกี่ยวกับป่าหิมพานต์ที่ล้อมรอบเชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งความเชื่อดังกล่าวปรากฎในศิลปะและวรรณคดีดั้งเดิมของไทย อาทิ รามเกียรติ์ และพระสุธน-มโนราห์
“Thailand Biennale, Krabi 2018 ไม่ได้กระทำบนพื้นฐานของการจัดแสดงผลงานศิลปะในแบบดั้งเดิม แต่จะสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ สำหรับการสร้างศิลปะจัดวางเฉพาะพื้นที่ภายนอกพิพิธภัณฑ์และ หอศิลป์ พื้นที่จัดแสดงของ Thailand Biennale, Krabi 2018 ซึ่งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันตามสภาพอากาศและโอกาสต่าง ๆ เมื่อผสมรวมกับความสวยงามตามธรรมชาติของแหล่งท่องเที่ยวแล้ว จะส่งผลให้งานจัดแสดงมีความน่าตื่นตาตื่นใจกับผู้มาเยือนมากขึ้น ดังนั้น Thailand Biennale, Krabi 2018 จึงถือเป็นการบุกเบิกการสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ที่ใช้แนวทางเข้าถึง เลียนแบบ ตีความใหม่ และขยายขอบเขตแห่งความเป็นจริง ซึ่งนำไปสู่การสร้างวิธีคิดแบบใหม่ นำพาทุกคนออกเดินทางสู่ความสร้างสรรค์ที่มีจุดเริ่มต้นจาก Edge of the Wonderland” ดร.เจียง กล่าว