More
    More

      นิทรรศกาลเดี่ยวครั้งที่สองของ เหงียน ฮุย อัน (Nguyen Huy An)

      -

      นิทรรศกาลเดี่ยวครั้งที่สองของ เหงียน ฮุย อัน (Nguyen Huy An)

      แกเลอรี่ คุย์อัน (Galerie Quynh) มีความยินดีนำเสนอ  Âm sang  ซึ่งเป็นนิทรรศกาลเดี่ยวครั้งที่สองของ เหงียน ฮุย อัน (Nguyen Huy An) ร่วมกับทางแกเลอรี่  คำว่า Âm sáng เป็นคำที่ศิลปินท่านนี้คิดขึ้นมาเองเพื่อสื่อสารถึงการรับรู้ความรู้สึกของแสง เงา และแสงสะท้อน คำว่า sang แปลว่า แสงส่วน  âm  คือคำนำหน้าคำนามเพศหญิง และมีความหมายถึงโลกแห่งจิตวิญญาณ

      สำหรับ Âm sang นี้ ฮุย อันได้แรงบันดาลใจมากจากประเพณีที่มีพื้นฐานมาจากความเชื่อของชาวช้านทางตอนเหนือของเวียดนาม  ซึ่งจะมีการค้นหาวัตถุที่เป็นของโบราณ ความสงสัยใคร่รู้ และความทรงจำที่อยู่ในวัดวาอาราม โรงละคร และนักแสดงมีฝีมือ เมื่อรวบรวมมาได้แล้ว ศิลปินจะทำการคัดแยกและวิเคราะห์จนได้มาซึ่งสิ่งที่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างความเป็นจริงในโลกปัจจุบันและมรดกทางวัฒนธรรมของเทวตำนาน รวมทั้งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในชุมชนซึ่งนับเป็นเรื่องที่ฮุย อันมักระลึกถึงอยู่เสมอ

      Nguyen Huy An                                                                

      เส้นทางการเป็นศิลปินของฮุย อันเริ่มต้นจากความหลงใหลในวัตถุสิ่งของ ความเป็นไปของโลก และพื้นที่ของชีวิต  โดยเฉพาะในและรอบๆเมืองฮานอยซึ่งเป็นบ้านเกิด รวมทั้งแสงเงาที่สาดส่องลงมา ก่อนหน้านี้ แสงเงาที่เขาชอบศึกษานั้นมักจะเป็นเงาที่เห็นได้ด้วยตา แต่ในครั้งนี้ หลังจากที่มีความเข้าใจมากขึ้นแล้ว เงาของเขาจึงไม่ใช่เงาที่มองเห็นได้อีกต่อไป มันมีความคลุมเคลือ หรือแม้แต่เป็นเพียงเงาที่เขาคิดขึ้นมา มันไม่ได้สาดลงมาบนพื้นผิวใดจนเห็นเป็นเงา แต่คือเงาที่แฝงอยู่ในวัตถุทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

      โรงละครตวงแอนด์เชียวเป็นโรงละครที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางโดยมีสไตล์แปลกตาและมีกลิ่นอายความเชื่อลัทธิขงจื๊อ ชีวิตในราชสำนัก และวิถีชาวบ้านประจำวันแฝงอยู่ มันไม่ได้เป็นเพียงสถานที่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีข้อคิดสอนใจและออกจะเสียดสีสังคมด้วยเช่นกัน  สำหรับความเชื่อในเรื่องเทพเจ้า Dao Mau ซึ่งเป็นเทพเจ้าฝ่ายหญิง ก็นับเป็นความเชื่อที่พบได้ในพิธีกรรมอันเก่าแก่ที่เรียกว่า hâu dông ซึ่งเป็นพิธีที่ประกอบไปด้วยการร้องรำทำเพลง โดยใช้เครื่องดนตรีที่ก่อให้เกิดเสียงค่อนข้างโหยหวนที่ชื่อ Hat Van

      สำหรับงานภาพถ่ายด้วยฟิล์มที่เขาออกไปถ่ายตามวัดในหมู่บ้านและขบวนแห่เทพเจ้าของชาวบ้านนั้น ฮุย อันจะถ่ายภาพด้วยแสงที่สว่างมากกว่าปกติ ภาพที่ล้างออกมาแทบจะกลายเป็นภาพแอ็บสแตรกท์ และผู้ชมจะถูกบังคับให้ต้องดูภาพเหล่านี้ในแสงสว่าง ต้องจ้องเขม็งจนภาพแทบจะทะลุ เพื่อให้มองเห็นรายละเอียดที่ยังพอจะมองเห็นได้ในรูป

      ร่องรอยพิธีกรรมนั้นจะพบได้ตลอดทั้งนิทรรศการ เฉกเช่นเดียวกับปีกของแมลงเม่าในคืนงานพิธี Thuong Ngan ในคืนที่มีการประกอบพิธี hâu dông ที่วัด Dong Cuong เพื่อแสดงการสักการะเทพเจ้าThuong Ngan นั้น ฮุย อันถูกแมลงเม่าบินมารุมตอมไปทั้งตัว และยังบินวนเป็นฝูงใหญ่อยู่บนศีรษะของผู้ที่มาร่วมพิธีอีกด้วย เพราะแมลงบินมาตามแสงไฟที่วัดนั้นเอง ในวัตต่อมาเขาเห็นปีกแมลงตกอยู่ไปทั่วพื้นวัด เขาเก็บมันเอาไว้ มันขยับไม่ด้อีกแล้ว ปีกทุกอันดูเหมือนๆกันไปหมด แต่แมลงเจ้าของปีกพวกนี้นับเป็นผู้เข้าร่วมงานในคืนวานที่มีความอดทนสูงมากทีเดียว

      งานชิ้นสำคัญของเขา  อิน เสิร์ช ออฟ ซุย วันส แฮร์ (ตามหาผมซุยวัน) นำเสนอในห้องที่ไม่ตกแต่งอะไร มีเพียงเสียงของฮุยอันที่เล่าถึงการตามหาปอยผมของนักแสดงที่มีชื่อเสียงจากภาพวาดเสมือนจริงชื่อซุยวันแต่ก็ไม่สามารถจะหาเจอได้ ฮุยอันมีความสนใจในผมของหญิงสาวชาวเวียดนามมาก ดังเช่นในงานก่อนหน้านี้ทื่ชื่อ แฮร์ ออน เดอะ เทเบิ้ล (ผมที่อยู่บนโต๊ะ) (2005) ที่แสดงในงาน Istanbul Biennialวัสดุที่ใช้นั้นสื่อถึงความจดจ่อที่เขามีต่อความเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นครองอำนาจของสตรีในประวัติศาสตร์ ไปถึงความเศร้าหมองและการไร้อำนาจของผู้หญิงในสังคม

      มีผลงานอีกจำนวนหนึ่งที่ฮุยอันให้ผู้ชมได้เห็นเพียงบางส่วนของชิ้นงาน โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ชมได้เห็นอย่างตรงประเด็นของงาน ไม่ต้องมีอะไรมารวบกวน และไม่มีสิ่งอื่นมาดึงดูดสายตา เขามองว่า ณ จุดใดจุดหนึ่งของงาน หรือรายละเอียดบางอย่างในงาน คือจุดตั้งต้นที่จะทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงความคิดเชิงลึกที่อยู่เบื้องหลังงานนั้น ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมหรือเรื่องส่วนบุคคลก็ได้

       

      โปรแกรมเพื่อการศึกษาที่แกเลอรี่ คุย์อัน

      เสวนากับศิลปิน เหงียน ฮุย ฮัน

      ภาษาที่ใช้ในงานเสวนาคือภาษาเวียดนามโดยมีล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ

      กรุณาติดต่อแกเลอรี่เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมเพื่อการศึกษา

      ศิลปิน:               เหงียน ฮุย อัน
      ชื่อนิทรรศการ:     Âm sang (แสง)
      วันแสดง:           13 มิถุนายน – 27 กรกฎาคม พ.ศ.2562
      วันเปิดงาน:        วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน  ตั้งแต่เวลา 18.30 – 20.30น.

      สถานที่:             แกเลอรี คูย์อัน
                             118 เหงียน แวน ธุ ดาว วอร์ด ดิสตริก โฮจิมินห์ เวียดนาม
      ผู้ติดต่อ:             ซิลีน อเล็กซานเดร  – 
      celine@galeriequynh.com
      เหงียน คาน หยวน – 
      huyen@galeriequynh.com 
                  โทร: +84 28 3822 7218   เวลา: 10.00น. – 19.00น. วันอังคารถึงวันเสาร์ และตามนัด

      เกี่ยวกับ เหงียน ฮุย อัน

      เหงียน ฮุย อัน เกิดเมื่อปีพ.ศ.2525 ณ กรุงฮานอย เขาเป็นศิลปินที่ไม่หยุดนิ่งและสร้างสรรค์นวัตกรรมมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้  เหงียน ฮุย อัน ได้เข้าร่วมแสดงในนิทรรศกาลและงานแสดงศิลปะมากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่น Looking for the Divine Beings, Nha San Collective (พ.ศ.2560); งานแสดงศิลปะร่วมสมัย Istanbul Biennial ครั้งที่ 14 – SALTWATER: A Theory of Thought Forms  ซึ่งจัดโดย Carolyn Christov Bakargiev อิสตันบุล ประเทศตุรกี (พ.ศ.2558); Mien Meo Mieng / ศิลปะร่วมสมัยจากเวียดนาม มหาวิทยาลัย Bildmuseet Umea ประเทศสวีเดน (พ.ศ.2558); Residual: Disrupted Choreographies, Carre d’Art – Musee d’Art Contemporain, ประเทศฝรั่งเศส (พ.ศ.2557); If The World Changedงานแสดงศิลปะร่วมสมัย Singapore Biennale (พ.ศ.2556); sounds of dust (somniloquy), 943 Studio คุนหมิง ประเทศจีน (พ.ศ.2554); Anatomy of an assembly line with an error, Nha San Studio ฮานอย ประเทศเวียดนามLim Dim, Stenersen Museum, ออสโล ประเทศนอร์เวย์ (พ.ศ. 2552); Tam Ta, San Art, โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (พ.ศ.2552); และ the Nippon International Performance Art Festival (NIPAF) โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (พ.ศ.2550) ในปีพ.ศ. 2553 นั้น ฮุยอันร่วมกับศิลปินวู ดุค โตน และ ฮวง มิน ดุค ก่อตั้ง The Appendix Group (Phu Luc) ซึ่งเป็นที่รวบรวมศิลปะการแสดง และได้ไปทำการแสดงที่หลายๆงานในประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ จีน และโปแลนด์

       

      เกี่ยวกับแกเลอรี คูย์อัน

      ได้รับการยอมรับว่าเป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะร่วมสมัยชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม แกลเลอรี่ควินเป็นผู้สนับสนุนงานศิลปะร่วมสมัยในประเทศมากว่าสองทศวรรษ แกลเลอรี่นี้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศจากโปรแกรมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกับศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี ทั้งที่เป็นศิลปินใหม่ ที่มีประสบการณ์มาหลายปีแล้ว และที่เป็นศิลปินชาวเวียดนามที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย แกลเลอรี่ยังแสดงงานของศิลปินชื่อดังจากทั่วโลก เพื่อเป็นการทำตามวัตถุประสงค์ของทางแกลเลอรี่ที่จะพัฒนาระบบนิเวศน์ที่ยั่งยืนของงานศิลปะในประเทศเวียดนาม ทางแกลเลอรี่ทำงานร่วมกับศิลปิน ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์ และพื้นที่แสดงงานศิลปะทั้งในพื้นที่และต่างประเทศเพื่อจัดงานเสวนาและการบรรยาย รวมทั้งตีพิมพ์ข้อมูลทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาเวียดนาม ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 แกลเลอนี่ได้ก่อตั้งองค์กรการศึกษาแบบไม่หวังผลกำไรชื่อ เซา ลา ที่ในปัจจุบันมีศิลปินที่ทำงานอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ เหงียน คิม โต ลัน และ เหงียน ดัก ดัทเป็นผู้นำโครงการ โดยเซา ลาประกอบไปด้วยหนุ่มสาวอายุน้อย ที่มีความหลงไหลในงานสร้างสรรค์ทำงานร่วมกัน

      บทใหม่ของแกลลอรี่ได้เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 เมื่อแกลลอรี่ได้มีการย้ายไปอยู่ในอาคารที่มีพื้นที่ขนาด 600 ตรม. ในตำบลดาเกา อาคารใหม่นี้ มีสี่ชั้นทำให้แกลเลอรี่สามารถริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในชุมชนศิลปะวัฒนธรรมในประเทศเวียดนาม

      www.galeriequynh.com

      นิทรรศการได้รับการสนับสนุนโดย British Council ภายใต้โครงการ the FAMLAB Fund สำหรับ FAMLAB Fund คือกองทุนที่มอบเงินสนับสนุนให้กับโครงการที่เกี่ยวข้องกับมรกทางดนตรีและภาพยนตร์ของเวียดนามโดยการนำเสนอแบบร่วมสมัย กองทุนเปิดโอกาสให้กับทั้งชาวเวียดนามและผู้ที่อยู่อาศัยในประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลเดี่ยวหรือองค์กรที่มีแนวทางการสร้างสรรค์งานศิลปะโดยจะก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวต่อชุมชนในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัย และแสดงให้เห็นถึงวิธีใหม่ๆในการสื่อสารกับผู้ชม

      [td_block_social_counter facebook="/MusicArtMagazine" youtube="channel/UCkBloEDlSI8SYOr4tp50z-g" instagram="musicandartmag" open_in_new_window="y" style="style8 td-social-boxed td-social-font-icons"]

      Related Stories