More
    More

      Montblanc 4810 Collection

      -

      Montblanc 4810 Collection

      Montblanc 4810 Collection

      4810 Visual 44มงต์บลองค์ฉลองให้กับยุคทองของการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย 4810 Collection

      มงต์บลองค์ฉลองครบรอบปีที่ 110 ในปีนี้ด้วย 4810 Collection ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นใหม่ที่สร้างต่อจากไลน์ขายดีที่สุดซึ่งปรากฏตัวครั้งแรก ไปเมื่อปีค.ศ. 2006 ในงานฉลองครบครอบ 100 ปีของแบรนด์ ทั้งนี้ 4810 Collection ยังคงดำรงไว้ซึ่งข้อปฏิบัติในการทำนาฬิกาของมงต์บลองค์ทุกประการโดยมีดีไซน์ ที่แข็งแกร่ง สง่างาม และทะมัดทะแมง พร้อมเพิ่มเติมด้วยการนำ 4810 Collection อันเป็นที่รักยิ่งไปตีความใหม่ให้ลุ่มลึกกว่าเดิมเพื่อให้เหมาะกับนักเดิน ทางสมัยใหม่ที่ต้องการเครื่องบอกเวลาทรงพลังที่เขาพึ่งพิงได้

      เมื่อ ค.ศ. 1906 ในช่วงที่การผลิตสินค้าด้วยโรงงานกำลังเติบโตมาก ผู้บุกเบิกทั้งสามอันประกอบด้วยออ-กุสต์ เอเบอร์สไตน์ (August Eberstein) วิศวกร, อัลเฟรด เนเมียส (Alfred Nehemias) พ่อค้า และเคล้าส์ ฟอซ (Claus Voß) พ่อค้าเครื่องเขียน ได้ออกเดินทางไปอเมริกาและได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่ค้นพบ พวกเขาพัฒนาเครื่องเขียนขึ้นมาหนึ่งชิ้นโดยใช้เทคโนโลยีไร้การรั่วซึมกับ กระบอกสูบน้ำหมึก ในทั้งสามคนเอ-เบอร์สไตน์เป็นวิศวกรที่มีหัวก้าวหน้าและใช้เวลาหลายปีในการ ค้นคว้าเรื่องสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลไกขนาดเล็กในประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ วิสัยทัศน์ในเรื่องศักยภาพ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ และคุณภาพที่ไร้ข้อบกพร่องของเขากลายเป็นแกนและแรงผลักดันให้กับมงต์บลองค์ ส่วนฟอซเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ เขาเฝ้ามองหาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่มีโอกาสในการพัฒนาต่อไปและไม่เคยมีมาก่อนอยู่เสมอ เมื่อได้พบเอเบอร์-สไตน์ เขาก็เข้าใจในความสร้างสรรค์และความหลงใหลที่เอเบอร์สไตน์มีต่องานวิศวกรรม ทันที และรู้ว่าเอ-เบอร์สไตน์จะเป็นหุ้นส่วนที่เติมเต็มแรงขับในการทำธุรกิจของเขา ได้ลงตัวที่สุด

      ในปี 1910 ผู้ก่อตั้งทั้งสามได้หยิบเอาชื่อ มงต์บลองค์ จากภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปมาทำเป็นสัญลักษณ์แทนวิสัยทัศน์ที่เล็งไปที่ ความเยี่ยมยอดของพวกเขา ความปรารถนาในคุณภาพที่สูงสุดนี้แปลเป็นศักยภาพขั้นสูงสุด นวัตกรรมที่แท้จริง และความสามารถของช่างฝีมือที่ประณีตที่สุด ทั้งหมดเป็นคุณค่าที่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนมงต์บลองค์มาถึงปัจจุบัน ยอดของภูเขามงต์บลองค์สูง 4,810 เมตร ซึ่งจะเป็นตัวเลขประจำตัวสำหรับมงต์บลองค์ตลอดไป วันนี้ตัวเลขดังกล่าวกลับมาอีกครั้งใน 4810 Collection ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นใหม่ และเป็นการเชิดชูเกียรติแด่จิตวิญญาณแห่งความเยี่ยมยอดที่มีผู้ก่อตั้ง แบรนด์เป็นคนสร้างไว้เมื่อครั้งที่พวกเขาเริ่มการเดินทางที่น่าอัศจรรย์ เมื่อ 110 ปีก่อน

      4810 Visual 33

      ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับนวัตกรรม มันเป็นเวลามุ่งหน้าไปสู่เส้นขอบฟ้าใหม่ๆ โดยเฉพาะการคมนาคมข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทำให้เกิดการค้าขายข้ามชาติตลอด จนความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมอื่นๆ ด้วย ต้องขอบคุณสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ การผงาดของเครื่องจักรไอน้ำสำหรับ

      Ocean Liner in New York
      Ocean Liner in New York

      เดินสมุทร และวิธีในการเดินเรือที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นหลากหลายวิธี มันเป็นการกระโดดครั้งใหญ่ของการเดินทางทางทะเล เรือโดยสารที่ให้บริการเป็นประจำแข่งขันกันเพื่อแย่งชิง Blue Riband Award ซึ่งเป็นรางวัลล้ำค่าสำหรับผู้ที่สามารถข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้เร็วที่สุด สถิติจะนับจากความเร็วเฉลี่ยเพราะเรือแต่ละลำใช้เส้นทางข้ามมหาสมุทรไม่ เหมือนกันและจะนำสถิติมาใช้แข่งขันได้ก็ต่อเมื่อเรือนั้นทำความเร็วได้ สูงสุดเมื่อเดินหน้าไปทางทิศตะวันตกทวนกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่แสนท้าทาย เท่านั้น รางวัลที่เป็นที่ปรารถนาอย่างมากรางวัลนี้ดึงดูดทั้งผู้โดยสารและบริษัท ขนส่งสินค้าที่ต้องการเรือที่มีความเร็วสูงสุดและทรงพลังที่สุด Blue Riband กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโดดเด่นและการประสบความเร็วอย่างสูงและจิตวิญญาณ ของรางวัลนี้ก็คือส่วนหนึ่งของ Montblanc 4810 Collection ใหม่ที่มีทั้งศักยภาพสูงสุดและความเยี่ยมยอดทางด้านเวลาด้วย

      4810 Visual 11

      ในช่วง เวลาของการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายที่มีท่าเรือขนาดใหญ่ก็เติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยมีมา ก่อน และกลายเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และประดิษฐกรรมใหม่ๆ ท่าเรือของเมืองฮัมบูร์กก็เป็นหนึ่งในนั้น ในฐานะท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี ท่าเรือฮัมบูร์กได้รับการขนานนามว่าเป็น “ประตูสู่โลกกว้าง” ของเยอรมนี ต้องขอบคุณท่าเรือนี้ เมืองฮัมบูร์กจึงไม่เพียงกระโดดเข้าสู่การค้าระหว่างชาติได้เท่านั้น การอุตสาหกรรมของเรือโดยสารข้ามมหาสมุทรแสนหรูหราที่เป็นของเยอรมนีก็พลอย มีชื่อเสียงว่าเป็นเรือขนส่งสินค้าที่มีความสำคัญและทันสมัยที่สุดของโลก อย่างรวดเร็ว รากฐานของมงต์บลองค์เริ่มต้นที่ฮัมบูร์กในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่แสน รวดเร็วช่วงนี้และขอนำ Montblanc 4810 Collection ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นใหม่มาร่วมฉลองให้กับมุมมองทางเทคโนโลยีและ สุนทรียศาสตร์ด้วย

      เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการครบรอบปีที่ 110 ของแบรนด์และยุคสุดมหัศจรรย์ที่ได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้น มงต์บลองค์จึงขอถือโอกาสแนะนำให้รู้จักกับนาฬิกาเรือนใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์ใน 4810 Collection ซึ่งมาพร้อมตัวเลือกของกลไกที่มงต์บลองค์ผลิตเองสามกลไกซึ่งมาพร้อมกับระบบ กลไกที่ซับซ้อนภายในที่ผลิตเองอีกเช่นกัน อันได้แก่ Calibre MB 29.21 ExoTourbillon Stop-Second, Calibre MB LL100.1 TwinFly Chronograph และ Calibre MB 29.20 World Timer

      เครื่องบอกเวลาแต่ละเรือนใน 4810 Collection จะทำตามข้อปฏิบัติด้านการออกแบบที่แข็งแกร่งและสง่างามของแบรนด์ และมาพร้อมหน้าปัดลวดลายกิโยเช่ (Guilloché) ที่มีลักษณะเป็นดวงดาวมงต์บลองค์ที่เหมือนระเบิดตัวออก ตัวเลขโรมันและหัวลูกศรสีทองคำแดง ตัวเรือนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและห้าวหาญขึ้น และเข็มต่างๆ ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามเป็นทรง Regate และเจาะโปร่ง ความใส่ใจในรายละเอียดนำ 4810 Collection ไปสู่ความซับซ้อนอีกขั้นหนึ่ง และแสดงให้เห็นว่ามงต์บลองค์ยังคง

      เดินหน้า “แบ่งปันความหลงใหล” ที่มีต่อการผลิตนาฬิกาลงในเครื่องบอกเวลารุ่นต่างๆ ที่มอบประโยชน์การใช้สอย คุณภาพ และความงามทางศิลป์ให้กับบรรดาผู้ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลกได้อย่างไร

      Montblanc 4810 Chronograph Automatic

      114855_Mood_black

      นาฬิกา 4810 Chronograph Automatic เรือนใหม่ นอกจากเป็นหนึ่งในกลไกที่มีความซับซ้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวันนี้ นาฬิกาโครโนกราฟเรือนนี้ยังเป็นไปตามข้อปฏิบัติในการออกแบบที่มีเอกลักษณะ เฉพาะตัวของมงต์บลองค์ทุกประการด้วยการผสมผสานทั้งความสง่างามและความทัน สมัยเข้าด้วยกัน เริ่มจากตัวเรือนสเตนเลส สตีลขนาดใหญ่ถึง 43 มม. หน้าปัดสีขาวอมเงินลายกิโยเช่ที่สง่างามซึ่งทำให้มีลักษณะคล้ายดวงดาวที่ กำลังระเบิดตัวออก และตัวเลขโรมันชุบทองคำแดงที่ผ่านการทำขึ้นมาอย่างสวยงาม

      นาฬิกาโครโนกราฟที่ทำงานด้วยเครื่องอัตโนมัติคาลิเบอร์ MB 25.07 ของมงต์บลองค์ที่สำรองพลังงานได้ 46 ชั่วโมง และใส่ปุ่มกดสองปุ่มเอาไว้เรือนนี้ จะแสดงชั่วโมงและนาทีจากตรงกลาง วินาทีในหน้าปัดย่อยที่ 9 นาฬิกา วันที่ในหน้าปัดย่อยที่ 6 นาฬิกาพร้อมตัวชี้บอกทรงสามเหลี่ยม เข็มจับวินาทีของระบบโครโน-กราฟที่ตรงกลาง ตัวจับเวลา 30 นาทีที่ 12 นาฬิกา และตัวจับชั่วโมงที่ 6 นาฬิกา ทุกอย่างได้สมดุลลงตัวอยู่บนหน้าปัดลายกิโยเช่ที่แสนประณีต

      114855_Front

      เพื่อให้ อ่านได้ง่ายที่สุด ฟังก์ชั่นที่บอกเวลาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเข็มชั่วโมงกับเข็มนาที และเข็มวินาทีกับสามเหลี่ยมบอกวันที่ จะถูกทำให้เป็นสีทองคำแดง ส่วนเข็มโครโนกราฟทั้งหมดจะเป็นสีน้ำเงิน พร้อมเข็มสีน้ำเงินที่มีปลายแดงสำหรับทำหน้าที่เป็นเข็มจับวินาทีที่ตรงกลาง การอ่านในตอนกลางคืนก็ย่อมทำได้เพราะเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเติมสาร Super LumiNova เอาไว้ รวมถึงจุดๆ ตามรางนาทีที่เป็นระเบียบและสามเหลี่ยมบอกวันที่ที่มีการเติมสารเรืองแสงไว้ ด้วย รางนาทียังมีตัวเลข “30” และ “60” เป็นสีแดงเพื่อช่วยให้อ่านตอนกลางวันได้ง่ายขึ้น

      เช่นเดียวกับ เครื่องบอกเวลาทุกชิ้นของ Montblanc 4810 Collection ประโยชน์การใช้งานก็มีการทำให้ดีขึ้นด้วย โดยนาฬิกาโครโนกราฟเรือนใหม่นี้สามารถกันน้ำได้ถึง 50 เมตร

      ความ ใส่ใจในรายละเอียดของ Montblanc 4810 Chronograph Automatic ช่วยเสริมให้ 4810 Collection มาถึงความสำเร็จและได้คุณภาพในการทำนาฬิกาในขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำจิตวิญญาณของนักบุกเบิกของแบรนด์มาตั้งแต่ค.ศ. 1906 Ident. 114855

      [td_block_social_counter facebook="/MusicArtMagazine" youtube="channel/UCkBloEDlSI8SYOr4tp50z-g" instagram="musicandartmag" open_in_new_window="y" style="style8 td-social-boxed td-social-font-icons"]

      Related Stories