More
    More

      การพบกันของสองตำนานแห่งดนตรีคลาสสิก คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล และ วาทยกรชื่อก้องโลก มาสโตร สุบิน เมห์ทา บนเวทีเดียวกัน

      -

      การพบกันของสองตำนานแห่งดนตรีคลาสสิก คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล และ วาทยกรชื่อก้องโลก มาสโตร สุบิน เมห์ทา บนเวทีเดียวกัน

      ในวาระฉลองครบ 20 ปี มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ

      ครั้งแรกในทวีปเอเชียกับคณะอุปรากรชั้นนำของยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ร่วมด้วยศิลปินมากกว่า 250 ชีวิต การแสดงเพื่อร่วมฉลองวาระครบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศอิตาลีและประเทศไทย

      การแสดงทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอายุยาวนานที่สุดในประเทศไทย “มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20” ปรากฏการณ์อันสุดประทับใจสำหรับเทศกาลที่นำสุดยอดการแสดงและวัฒนธรรมอันหลากหลายจากทั่วโลกมารวมอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าคือเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเทศกาลเดียวที่นำประสบการณ์อันยากที่จะลืมเลือนมาสู่ผู้ชม จากยุคสู่ยุคที่เทศกาลฯ ดังกล่าวมอบความสุขทางด้านดนตรี การแสดงอุปรากร พลังของศิลปะระบำปลายเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย นี่คือประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับทุกคน

      Zubin_Beethoven8

      เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบ 20 ปีของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ สองตำนานแห่งวงการดนตรีคลาสสิกของโลกบนเวทีเดียวกันครั้งแรกในทวีปเอเชีย ระหว่างคณะอุปรากรซาน คาร์โลแห่งเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี และ วาทยกรระดับโลก นั่นคือ มาสโตร สุบิน เมห์ทา จะมาร่วมกันรังสรรค์ความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ กับสองวันของโอเปราเต็มรูปแบบ และสองวันของซิมโฟนี คอนเสิร์ตสุดอลังการ ทั้งสี่การแสดงดังกล่าวถือเป็นการเปิดงาน “มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20” รวมระยะเวลาของเทศกาลฯ ทั้งสิ้น คือห้าสัปดาห์ด้วยกัน (12 กันยายน ถึง 18 ตุลาคม 2561)

      สำหรับวันที่ 12 และ 14 กันยายน คือการแสดงอุปรากรเต็มรูปแบบ “คาร์เมน” อุปรากรสามองก์ (พักการแสดงหนึ่งครั้ง) โดยคณะอุปรากรซาน คาร์โล บรรเลงดนตรีประกอบโดยวงดุริยางค์ซิมโฟนี ซาน คาร์โล ออร์เคสตรา ควบคุมและกำกับดนตรีโดย มาสโตร สุบิน เมห์ทา ส่วนวันที่ 13 และ 15 กันยายนเป็นการแสดงซิมโฟนี คอนเสิร์ต โดยวงซาน คาร์โล ซิมโฟนี ออร์เคสตรา ซึ่งมาสโตร สุบิน เมห์ทา จะเป็นวาทยกรเช่นเดียวกัน

      Teatro di San Carlo. 2009
      Teatro di San Carlo. 2009

      สำหรับเมืองเนเปิลส์ ศูนย์กลางของวัฒนธรรมอันเลื่องชื่อที่สุดของเมืองหรือในระดับประเทศ คงหนีไม่พ้นโรงอุปรากรที่เป็นตำนาน นั่นคือโรงอุปรากรแห่งซาน คาร์โล หรือ Teatro di San Carlo ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงอุปรากรที่มีคณะแสดงที่เก่าแก่ที่สุดของโลกและยังคงดำเนินการแสดงอยู่จวบจนปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1737 ก่อตั้งขึ้นก่อนหน้าโรงอุปรากร La Scala แห่งเมืองมิลาน และ La Fenice แห่งเมืองเวนิส ด้วยการสนับสนุนของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามแห่งเนเปิลส์ โรงอุปรากรแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดสำคัญที่อุปรากรและดนตรีคลาสสิกเกิดการพัฒนาขึ้น มิใช่เพียงแค่ในประเทศอิตาลี หากแต่รวมถึงทวีปยุโรปด้วย นอกจากนั้นยังเป็นจุดกำเนิดของอุปรากรสมัยใหม่ ซึ่งมีรากฐานมาจาก Neapolitan Tradition จากประวัติศาสตร์ของดนตรีตะวันตกเกี่ยวเนื่องกับอุปรากรในศตวรรษที่ 18 ซึ่งนักประพันธ์ต่างสร้างสรรค์งานและศึกษารูปแบบของอุปรากรในเมืองเนเปิลส์เป็นหลัก เพราะฉะนั้นถือว่าเนเปิลส์เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของอุปรากรในยุคนั้น

      คีตกวีชั้นแนวหน้าของโลก เช่น Johann Adolph Hasse, Joseph Haydn, Johann Christian Bach และ Christoph Willibald Gluck, Vincenzo Bellini, Saverio Mercadante, Gaetano Donizetti (ผู้ซึ่งประพันธ์อุปรากรถึง 16 การแสดงสำหรับโรงอุปรากรแห่งซาน คาร์โล) ต่างก็มุ่งมั่นในการนำเสนอการแสดงผลงานของตัวเองที่โรงอุปรากรแห่งนี้ อันถือเป็นเครื่องหมายยืนยันของความสำเร็จในวิชาชีพของตัวเอง นอกจากนั้น Gioachino Rossini คีตกวีและผู้ประพันธ์อุปรากรที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกชาวอิตาลี ก็ได้เป็นนักประพันธ์และผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ในโรงอุปรากรนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1815 ถึง 1822 ด้วยเช่นกัน

      George Bizet / CARMEN Opéra-comique in quattro atti libretto di Henri Meilhac e Ludovic Halevy dall’omonimo racconto di Prosper Mérimée Parigi, Opéra-Comique (Salle Favart), 3 marzo 1875 Direttore | Juraj Valčuha Regia | Daniele Finzi Pasca Creative Associate | Julie Hamelin Coreografia e assistente alla regia | Maria Bonzanigo Scene | Hugo Gargiulo Luci | Alexis Bowles e Daniele Finzi Pasca Costumi | Giovanna Buzzi Assistente ai costumi | Ambra Schumacher Collaboratori tecnici | Marzio Picchetti, Pietro Maspero Interpreti Carmen, Clementine Margaine Don José, Stefano Secco Escamillo, Erwin Schrott Moralès, Roberto Accurso Zuniga, Renzo Ran Micaëla, Jessica Nuccio Mercédès, Giuseppina Bridelli Frasquita, Sandra Pastrana Dancairo, Fabio Previati Remendado, Carlo Bosi Orchestra, Coro, Corpo di Ballo e Coro di Voci Bianche del Teatro di San Carlo venerdì 7 luglio 2017 ore 20.30 Turno A domenica 9 luglio 2017 ore 18.00 Turno F mercoledì 12 luglio 2017 ore 20.30 fuori abbonamento venerdì 14 luglio 2017 ore 20.30 Turno C / D domenica 16 luglio 2017 ore 18.00 Turno B

      ไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โลจะได้ชื่นชมกับความสำเร็จไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างและออกแบบการแสดง รวมถึงคุณภาพอันสุดยอดของนักร้องอุปรากรซึ่งทุกคนล้วนผ่านการคัดสรรและเคี่ยวกรำกว่าจะขึ้นมายืนทำการแสดงอยู่บนเวทีหลักของโรงอุปรากรนี้ได้ และในศตวรรษที่ 21 นี้เช่นกันที่คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล ยังคงเป็นทูตทางวัฒนธรรมส่งผ่านศิลปะการแสดงดั้งเดิมอันหาชมได้ยากยิ่งของอิตาลีไปสู่สายตาชาวโลก

      และในกรุงเทพมหานครครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชียที่คณะอุปรากรแห่งซาน คาร์โล ยกการแสดงอุปรากรเต็มรูปแบบ “คาร์เมน” (อุปรากรสามองก์กับหนึ่งช่วงพักการแสดง) ผลงานอันมีชื่อเสียงและเป็นที่รักของผู้ชมทั่วโลกโดย Georges Bizet ร่วมด้วยศิลปินอุปรากรระดับแนวหน้าของโลก ทั้งสองรอบการแสดงบรรเลงดนตรีประกอบโดยวงซิมโฟนี ออร์เคสตราเต็มวง อำนวยเพลงและกำกับดนตรีโดย มาสโตร สุบิน เมห์ทา ซึ่งในปัจจุบัน มาสโตร สุบิน เมห์ทา ดำรงตำแหน่งเป็นวาทยกรเกียรติยศ ท่านเป็นตำนานของวงการดนตรีคลาสสิกที่ยังคงมีลมหายใจ ตลอดระยะเวลาแห่งวิชาชีพวาทยกรของท่านนั้นได้ผ่านการกำกับและควบคุมวงออร์เคสตราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของโลกมาแล้วมากมาย อาทิ Berlin Philharmonic, Vienna Philharmonic Orchestra, Montreal Symphony Orchestra และ New York Philharmonic Orchestra เป็นต้น

      วงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โลเองก็มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน มีชื่อเสียงควบคู่ไปกับโรงอุปรากรเช่นกัน เริ่มก่อตั้งในปีเดียวกันกับโรงอุปรากรคือปี ค.ศ. 1737 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โลได้บรรเลงผลงานครั้งแรกของคีตกวีที่สำคัญของโลกหลายท่าน อาทิ Rossini, Bellini, Donizetti, Bach และ Verdi เป็นต้น นักประพันธ์อุปรากรแห่งเนเปิลส์ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่มีชื่อเสียงนามว่า Giuseppe Martucci ก็ได้ร่วมงานกับวงออร์เคสตรานี้บ่อยครั้ง ในช่วงทศวรรษต่อจากสงครามโลกครั้งที่สอง วงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โลได้ร่วมงานกับวาทยกรระดับตำนานของโลกหลายท่าน เช่น Gui, Serafin, Santini, Gavazzeni, Böhm, Fricsay, Scherchen, Cluytens, Knappertsbusch และ Mitropoulos รวมถึงปี ค.ศ. 1958 Igor Stravinsky ได้มาควบคุมและกำกับวง นอกจากนั้นเหล่านักดนตรีเดี่ยวที่มากความสามารถของโลก ยังได้ร่วมบรรเลงดนตรีกับวงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โลด้วยเช่นกัน จวบจนช่วงทศวรรษ 1960 สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการดนตรีคลาสสิกก็ได้ร่วมควบคุมกำกับวงด้วย นั่นคือ Claudio Abbado ในปี ค.ศ. 1963 แล Riccardo Muti ในปี ค.ศ. 1967

       

      ในกรุงเทพมหานคร ภายใต้การกำกับและควบคุมวงของมาสโตร สุบิน เมห์ทา วงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โลจะทำการแสดงสองผลงานอันยิ่งใหญ่ของเบโธเฟน วันที่ 13 กันยายน คือ Leonore Overture No.3 และ Symphony No. 9 ร่วมกับนักร้องประสานเสียงและนักร้องเดี่ยว และในวันที่ 15 กันยายน นำเสนอผลงานซิมโฟนีสองบทของไชคอฟสกี นั่นคือ ซิมโฟนีหมายเลข 4 และ หมายเลข 6

      การแสดงครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนจาก สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน), บีกริมม์, บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย, โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน), กระทรวงวัฒนธรรม, เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, ไทย ยูเนี่ยน กรุ๊ป, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

      แฟนพันธุ์แท้ผู้รักในดนตรีคลาสสิกไม่ควรพลาดในวาระพิเศษของคณะอุปรากรและวงออร์เคสตราแห่งซาน คาร์โล ใน “มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 20” นี้ บันทึกวันและเวลาการแสดงลงในปฏิทิน พร้อมรีบจองบัตรชมการแสดงสำหรับกิจกรรมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมแห่ง

      ทศวรรษ…ซึ่งครั้งนี้คือสองทศวรรษ นอกจากนั้นสละเวลาของท่านสักครู่เพื่อดูรายละเอียดของการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจอื่นๆ อีกหลายการแสดงทั่วโลกสำหรับวาระอันพิเศษครั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม: www.bangkokfestivals.com

      บัตรเข้าชมการแสดง: Thai Ticket Major (www.thaiticketmajor.com) สายด่วน 02 262 3191 และสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ Thai Ticket Major ทุกสาขา

      ราคาบัตร: โอเปรา “คาร์เมน” (12 และ 14 กันยายน) — 10,000 / 7,000 / 5,000 / 4,000 / 2,000 บาท

      ซิมโฟนี คอนเสิร์ต (13 และ 15 กันยายน) — 10,000 / 7,000 / 5,000 / 4,000 / 2,000 บาท

      สถานที่แสดง: หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

      [td_block_social_counter facebook="/MusicArtMagazine" youtube="channel/UCkBloEDlSI8SYOr4tp50z-g" instagram="musicandartmag" open_in_new_window="y" style="style8 td-social-boxed td-social-font-icons"]

      Related Stories